Love2Test แพลตฟอร์มสุขภาพทางเพศที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน

Love2Test แพลตฟอร์มสุขภาพทางเพศที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน

ปัจจุบัน สุขภาพทางเพศเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) และเอชไอวี (HIV) ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนทั่วโลก แม้ว่าความก้าวหน้าทางการแพทย์จะช่วยให้มีวิธีป้องกันและรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่การเข้าถึงบริการเหล่านี้ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับหลายคน Love2Test จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนสามารถตรวจหาเอชไอวีและดูแลสุขภาพทางเพศได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเป็นส่วนตัว

บทบาทสำคัญของLove2Test ในการลดการแพร่ระบาดของเอชไอวีในประเทศไทย

“Quicky"

Love2Testเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ชุดตรวจมาตรฐาน และแนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทุกคนสามารถดูแลสุขภาพทางเพศของตนเองได้โดยไม่ต้องเผชิญกับอุปสรรคด้านการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือมีไลฟ์สไตล์แบบใด Love2Testพร้อมเป็นผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ในการดูแลสุขภาพทางเพศของคุณ

Love2Test คืออะไร?

Love2Test คืออะไร

Love2Testเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่พัฒนาโดย มูลนิธิเพื่อรัก (Love Foundation) ภายใต้การนำของ คุณ ปัญญาพล พิพัฒน์คุณอานนท์ โดยมุ่งเน้นให้บริการด้านสุขภาพทางเพศแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น

  • การตรวจหาเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • การเข้าถึงยา PrEP และ PEP
  • การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ
  • การให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ

แพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เป็นส่วนตัว และปลอดภัย ช่วยให้ทุกคนสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างสะดวก

“Quicky"

ความสำคัญของการตรวจสุขภาพทางเพศเป็นประจำ

การตรวจหาเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรค การตรวจพบเชื้อในระยะแรกช่วยให้สามารถเริ่มต้นการรักษาได้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการแพร่เชื้อและช่วยให้ผู้ติดเชื้อสามารถมีสุขภาพที่ดี ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง การใช้ ยา PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ขณะที่ PEP (Post-Exposure Prophylaxis) เป็นตัวเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงหลังจากได้รับเชื้อ การตรวจสุขภาพทางเพศอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงช่วยป้องกันโรค แต่ยังเป็นการดูแลตัวเองและคนที่คุณรักให้ปลอดภัยอีกด้วย

บริการที่ครอบคลุมจากLove2Test

บริการที่ครอบคลุมจากLove2Test (1)

Love2Testมอบบริการด้านสุขภาพทางเพศแบบครบวงจร ได้แก่

“ChatLove2test"
  • การตรวจคัดกรองเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • การจองคิวตรวจออนไลน์ 24 ชั่วโมง
  • การเข้าถึงยา PrEP และ PEP
  • บริการบำบัดฮอร์โมนสำหรับ LGBTQ+
  • บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางเพศโดยผู้เชี่ยวชาญ

แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้คุณสามารถรับบริการได้อย่างง่ายดาย ลดระยะเวลารอคอย และเพิ่มความสะดวกสบายในการดูแลสุขภาพทางเพศของคุณ

จุดเด่นของ Love2Test ที่ทำให้แตกต่าง

Love2Testมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและแตกต่างจากบริการสุขภาพทางเพศอื่น ๆ ดังนี้

“PrEPLove2test"
  • ระบบออนไลน์ที่สะดวกสบาย: คุณสามารถเลือกวัน เวลา และสถานที่ตรวจได้ตามต้องการ
  • ความเป็นส่วนตัวสูงสุด: ข้อมูลของคุณจะถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัย
  • เครือข่ายคลินิกมาตรฐานทั่วประเทศ: ช่วยให้คุณเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น
  • ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ: เตือนคุณให้มาตรวจตามกำหนดผ่าน SMS และอีเมล

Love2Testทำให้การดูแลสุขภาพทางเพศเป็นเรื่องง่ายและไร้กังวล

ใครบ้างที่ควรใช้ Love2Test

ใครบ้างที่ควรใช้ Love2Test

แพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการตรวจเอชไอวีและข้อมูลด้านสุขภาพทางเพศได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเป็นส่วนตัว โดยเหมาะสำหรับ

  • บุคคลทั่วไป ที่ใส่ใจสุขภาพทางเพศและต้องการตรวจเอชไอวีเพื่อความมั่นใจ
  • กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ชายรักชาย (MSM) ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นเลือด
  • คู่รักและคู่สมรส ที่วางแผนมีครอบครัว หรืออยู่ในความสัมพันธ์ที่มีผลตรวจต่างกัน
  • วัยรุ่น เยาวชน และวัยทำงาน ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลและบริการตรวจเอชไอวีในรูปแบบที่เป็นส่วนตัวและสะดวก

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในกลุ่มใด Love2Testพร้อมเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพทางเพศของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

ช่องทางการเข้าถึงLove2Test

คุณสามารถเข้าถึงบริการของLove2Test ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม

Love2Test ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มสุขภาพทางเพศ แต่เป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมที่เปิดกว้าง ปราศจากการตีตรา และมุ่งสู่อนาคตที่ปลอดภัยจากเอชไอวี ด้วยบริการที่ครอบคลุม สะดวก และปลอดภัย Love2Test พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดด้านสุขภาพทางเพศสำหรับทุกคน

Similar Posts

  • | | |

    ยาเป๊ป (PEP) ยาต้านฉุกเฉินป้องกันเอชไอวี

    ยาต้านไวรัสเอชไอวีเป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งหรือต้านการแบ่งตัวของเชื้อเอชไอวี ช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T-cell มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้สูงสุดถึง 99% หากมีการใช้อย่างถูกวิธี การทานยา เป๊ป(PEP) จะต้องทานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน และทานยาต้านไวรัสประกอบกัน 2-3 ชนิด ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับผู้มีเชื้อเอชไอวี แต่ยาต้านไวรัสส่วนมาก มักมีผลข้างเคียง บางรายอาจมีอาการท้องเสีย ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน และอิดโรย โดยผลข้างเคียงนี้อาจมีอาการรุนแรงในบางราย จนทำให้เป็นสาเหตุของผู้ทานยา หยุดยาไปก่อนที่จะทานครบกำหนด สาเหตุที่ต้องรับยาเป๊ป ( PEP ) ยาเป๊ป (PEP) เป็นยาต้านฉุกเฉิน ในกรณีการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันและควรเก็บไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น และการรับยา PEP จะช่วยยับยั้งการกลายเป็นตัวไวรัสที่สมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้ร่างกายของผู้ป่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันในการป้องกันก่อนจะแพร่กระจายในร่างกายได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานยาให้เร็วที่สุด ต้องกินยาเป๊ป ( PEP ) นานแค่ไหน การกินยา PEP ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจะต้องกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังได้รับความเสี่ยง โดยกินอย่างสม่ำเสมอทุกวัน(กินเวลาเดิม) ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 28 วัน โดยสูตรยาที่กินจะมีทั้งแบบวันละครั้งและวันละ 2 ครั้ง…

  • | | |

    ยาเพร็พ (PrEP) ป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อเอชไอวี

    ยาต้านไวรัสเอชไอวีเป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งหรือต้านการแบ่งตัวของเชื้อเอชไอวี ช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T-cell มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้สูงสุดถึง 99% หากมีการใช้อย่างถูกวิธี เพื่อให้ร่างกายมีระดับยาที่เพียงพอในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยต้องจะรับประทานยาติดต่อกันทุกวันตลอดช่วงที่ยังมีความเสี่ยงอยู่ และการใช้ยาในลักษณะนี้จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ โดยผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการตรวจเลือดก่อนเริ่มยาว่าตนไม่มีเชื้อเอชไอวี อยู่ก่อนแล้ว  ใครบ้างที่ควรได้รับยาเพร็พ (PrEP) ยาเพร็พ (PrEP) ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ได้กี่เปอร์เซ็นต์ การใช้ยา PrEP อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง โดยกินต่อเนื่องทุกวันไปอย่างน้อย 7 วันก่อนที่จะมีความเสี่ยง จะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวี จากการมีเพศสัมพันธ์ได้มากกว่า 90 % ส่วนในกรณีของผู้ใช้ยาเสพติดแบบฉีด สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อลงได้ถึง 70% ดังนั้นถ้าเราอยากจะป้องกันให้ดีที่สุด ก็ควรกิน PrEP และใช้ถุงยางอนามัยด้วย เพราะหากพลาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป (เช่น ถุงยางแตก หรือคู่ไม่ยอมใส่ หรือลืมกิน PrEP) ก็มีอีกอย่างที่ช่วยป้องกันเราจากการติดเชื้อเอชไอวีได้ ทำไงถ้าลืมทานยาเพร็พ (PrEP) หากลืมกินยา หรือกินยาไม่ตรงเวลาอย่างต่อเนื่อง สามารถ รัประทานห่างกันได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง หากลืมเมื่อใด แล้วนึกออกให้รับประทานทันที แต่หากลืมเกิน 7 วัน ให้เริ่มนับ…

  • รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ “กามโรค” อันตรายใกล้ตัวกว่าที่คิด

    ในยุคที่ความสัมพันธ์ทางเพศเปิดกว้างและการพบปะผู้คนใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ง่ายผ่านแอปหรือสังคมออนไลน์ “กามโรค” กลายเป็นประเด็นสุขภาพที่คนรุ่นใหม่ควรให้ความสำคัญมากกว่าที่คิด หลายคนอาจมองว่ากามโรคเป็นเรื่องไกลตัว หรือคิดว่าเป็นโรคของคนเจ้าชู้เท่านั้น แต่ในความเป็นจริง กามโรคสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นชายหญิง คู่รัก หรือแม้แต่คนที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก การเข้าใจเรื่องกามโรคอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่เพียงเพื่อป้องกันตัวเอง แต่ยังช่วยลดการแพร่เชื้อในสังคม และส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เห็นว่าการดูแลสุขภาพทางเพศเป็นเรื่องปกติและสำคัญไม่แพ้การดูแลร่างกายทั่วไป บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจ “ทุกเรื่องเกี่ยวกับกามโรค” ตั้งแต่สาเหตุ อาการ วิธีป้องกัน ไปจนถึงแนวทางการรักษาแบบมืออาชีพ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าความรู้เรื่องนี้จะช่วยปกป้องคุณและคนรอบตัวจากโรคที่อาจส่งผลต่อชีวิตในระยะยาว ความหมายของ “กามโรค” คืออะไร ? กามโรค ที่พบบ่อยในประเทศไทย ประเทศไทยยังคงพบผู้ป่วยกามโรคเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน โรคเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่มีคู่นอนหลายคนเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน ปัจจุบันกามโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทยมีดังนี้ 1. หนองในแท้ (Gonorrhea) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์โดยตรง อาการที่พบบ่อยคือปัสสาวะแสบขัด มีหนองออกจากอวัยวะเพศ หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจลุกลามจนทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก หรือการอักเสบของอุ้งเชิงกรานในผู้หญิงได้ 4. หูดหงอนไก่ (Genital Warts) เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV ทำให้เกิดตุ่มหรือหูดบริเวณอวัยวะเพศ หรือ ทวารหนัก…

  • |

    โรคเอดส์ ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ป้องกันได้ รักษาได้

    “โรคเอดส์” หรือ AIDS (Acquired Immune Deficiency Syndrome) เป็นคำที่หลายคนเคยได้ยินมาตั้งแต่อดีต และในบางครั้งยังถูกใช้อย่างคลาดเคลื่อน จนเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคนที่อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV ซึ่งเป็นไวรัสต้นเหตุของโรคเอดส์อย่างแท้จริง บางคนเข้าใจว่า HIV และเอดส์คือสิ่งเดียวกัน หรือเข้าใจว่าเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาได้และต้องเสียชีวิตในเวลาอันสั้น แต่ในความเป็นจริง ปัจจุบันความรู้ทางการแพทย์ได้พัฒนาไปไกลมาก บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจโรคเอดส์ อย่างถูกต้อง แยกให้ออกระหว่างการติดเชื้อ HIV กับการเป็นเอดส์ พร้อมทั้งพูดถึงวิธีการป้องกัน การรักษา และการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพของผู้ที่ติดเชื้อ HIV ในปัจจุบัน HIV และเอดส์ ต่างกันอย่างไร ? อาการเหล่านี้มักไม่เกิดขึ้นพร้อมกัน และมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัย HIV จึงเป็นวิธีที่แน่นอนที่สุด การวินิจฉัยและตรวจหา HIV การตรวจ HIV ในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว ทั้งในโรงพยาบาล คลินิกเวชกรรม หรือคลินิกชุมชนที่ให้บริการโดยไม่เปิดเผยชื่อ นอกจากนี้ยังมีชุดตรวจ HIV ด้วยตนเองที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาที่ได้รับอนุญาต การตรวจควรทำภายหลังมีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ และอาจต้องตรวจซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ หากพบว่าติดเชื้อ…

  • PrEP ซื้อที่ไหน ราคาเท่าไร? รวมคำตอบที่ควรรู้

    ในยุคที่การป้องกันเอชไอวี (HIV) มีความสำคัญอย่างยิ่ง PrEP หรือ Pre-Exposure Prophylaxis ได้กลายเป็นทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นยาต้านไวรัสที่ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้เกือบ 100% หากใช้ถูกต้องและต่อเนื่อง การมีข้อมูลที่ถูกต้องว่า PrEP ซื้อที่ไหน และราคาเท่าไร จึงเป็นคำถามสำคัญที่ผู้คนจำนวนมากอยากได้คำตอบอย่างชัดเจน การหาซื้อ PrEP ไม่ใช่แค่การซื้อยา แต่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย คุณภาพของยา การดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม บทความนี้จะอธิบายทุกประเด็นที่คุณควรรู้ ตั้งแต่พื้นฐานของ PrEP ความสำคัญ ราคา ช่องทางซื้อ ไปจนถึงปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเริ่มใช้ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกการตัดสินใจจะเป็นไปอย่างรอบคอบและปลอดภัย ยา PrEP คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ นอกจากนี้ การติดตามผลทุก 3 เดือนถือเป็นหัวใจสำคัญของการใช้ PrEP เพราะช่วยให้มั่นใจว่าผู้ใช้ยังคงปลอดจากเชื้อเอชไอวี รวมถึงช่วยประเมินผลข้างเคียงจากการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง การมีแพทย์คอยกำกับดูแลจึงไม่เพียงแค่ทำให้การใช้ PrEP ปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่ยังทำให้ผู้ใช้ได้รับการดูแลสุขภาพในภาพรวมอย่างครบถ้วนอีกด้วย ราคา PrEP ในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายในการรับบริการ PrEP (เพร็พ) ในประเทศไทย จะแตกต่างกันไปตามสถานพยาบาล รวมถึงการสนับสนุนจากโครงการด้านสุขภาพต่าง…

  • โรคเอดส์ (AIDS : Acquired Immune Deficiency Syndrome)

    คนส่วนใหญ่มักจะเข้าผิดว่าผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยโรคเอด์ เป็นโรคเดียวกัน จริงๆ แล้วผู้ที่ได้รับเชื้อเชื้อเอชไอวี ระยะแรกจะยังไม่เป็นโรคเอดส์จนผู้ติดเชื้อไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จนผู้ติดเชื้อเอชไอวีเข้าสู่ระยะสุดท้ายของการติดเชื้อ จึงจะเรียกว่า ผู้ป่วยโรคเอดส์ โรคเอดส์คืออะไร? สาเหตุของโรคเอดส์ มาจากการได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวี ผ่านทางการรับของเหลว เช่น เลือด น้ำนมแม่ น้ำอสุจิ ของเหลวในช่องคลอด โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะได้รับผ่านจากการมีเพศสัมพันธ์ และการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับบุคคลอื่น ทั้งนี้การที่ไวรัสส่งผ่านทางของเหลวทำให้ผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี สามารถส่งผ่านเชื้อไวรัสจากแม่ไปยังลูกในครรภ์ หรือผ่านทางน้ำนม ได้เช่นกัน  อาการของโรคเอดส์ อาการโรคเอดส์ระยะเริ่มแรก หรือเรียกระยะเฉียบพลัน ในระยะแรกนี้ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวี จะมีอาการไข้ เจ็บคอ ผื่นขึ้น ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งเป็นอาการตอบสนองของร่างกายจากการได้รับเชื้อ อาการท้องเสียของคนเป็นเอดส์ จะมีอาการถ่ายเหลว มีน้ำเยอะมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน หรืออาจมีมูกเลือดปนออกมาด้วยในบางครั้ง อาการท้องเสียมักจะเกิดร่วมกันกับอาการไข้และน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว โรคเอดส์ และการติดเชื้อในกระแสเลือด เกิดการอักเสบ และติดเชื้อในร่างกายและกระจายสู่กระแสเลือด อาจทำให้เกิดภาวะช็อกและอวัยวะภายในล้มเหลวได้ อาการที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องไปพบแพทย์ เมื่อรู้ตัวว่ามีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวี ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี หรือหากน้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ มีไข้หลายสัปดาห์ติดต่อกัน ท้องเสียเรื้อรัง ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอหรือขาหนีบโต ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรค  การรักษาโรคเอดส์ การรักษาโรคเอดส์ด้วยการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีกับผู้ป่วย โดยผู้ป่วยจะต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องไปตลอดชีวิต…