มีเพศสัมพันธ์อย่างไรให้ปลอดภัย
| |

มีเพศสัมพันธ์อย่างไรให้ปลอดภัย

เรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญของทุกคน การป้องกันก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน การมีเซ็กส์ยังไงให้ปลอดภัย เพื่อการป้องกัน และลดความเสี่ยงการติดต่อของโรคทางเพศสัมพันธ์

Safe Sex คืออะไร 

“Quicky"

คือ การมีเซ็กซ์ หรือเพศสัมพันธ์กันอย่างปลอดภัย ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดว่ามีเพียงแค่การใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ แต่ความจริงแล้วการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยมีมากกว่านั้น อย่างเช่น การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่าการช่วยตัวเอง ซึ่งวิธีอย่างหนึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ร้ายแรง หรือน่ารังเกียจ

ทำไมต้อง Safe Sex? 

การ Safe Sex หรือการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยนั้น เพื่อเป็นการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อเอชไอวี, โรคเอดส์, ซิฟิลิส, หนองใน ฯลฯ หรือช่วยในการคุมกำเนิด ตั้งท้องในขณะที่ยังไม่พร้อม 

การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยเป็นไปได้หรือไม่ 

เป็นไปได้ หากเรามีความรู้ และการเข้าใจในการมีเซ็กซ์ หรือเพศสัมพันธ์ อย่างถูกต้อง ทำให้เรามีเซ็กส์อย่างปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

“Quicky"
ถุงยางอนามัย+ยาคุมกำเนิด

Safe Sex มีแบบไหนบ้าง?

แบบที่ 1 ก่อนที่จะมี Sex กับใครได้โปรดตรวจเลือดเพื่อความชัวร์! 

แม้ว่าเราจะมั่นใจในตัวเอง หรือไว้ใจในคู่นอนของเรามากแค่ไหน แต่การตรวจเลือดก่อนมีเพศสัมพันธ์ก็จะชัวร์และปลอดภัยมากกว่า เพราะการที่เราตรวจเลือดก่อนมีเพศสัมพันธ์ก็เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เราสามารถตรวจได้จากเลือดนั้นเอง เช่น โรคเอดส์ โรคซิฟิลิส หรือโรคไวรัสตับอักเสบชนิดบี ที่ติดแล้วรักษายากมาก ๆ ซึ่งสามารถตรวจได้ตามโรงพยาบาลทั่วไปเลย ฉะนั้นก่อนมีเพศสัมพันธ์เราอยากจะแนะนำให้ตรวจเลือดก่อนทุกครั้งเพื่อเขาเพื่อเราจะได้ปลอดภั

“ChatLove2test"

แบบที่ 2 Safe Sex ด้วยถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย

ถุงยางอนามัยของผู้ชายนั้นเป็น Safe Sex แบบเบสิก ถ้าใช้ถูกวิธีรับรองว่าปลอดภัย 100% และหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง เพราะนอกจากจะสามารถช่วยป้องกันเราจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้ว ยังสามารถคุมกำเนิดได้ดีอีกด้วย

“PrEPLove2test"

ข้อดีของการใช้ถุงยางอนามัย

สามารถป้องกันเราจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการคุมกำเนิดได้ 100% ถ้าถุงยาง ไม่รั่ว ไม่ขาด ไม่หมดอายุ ฉะนั้นเช็กดี ๆ ก่อนสวม ราคาไม่แพง หาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อ เปิดขายกันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพหรือภาวะแทรกซ้อนด้วย

ข้อควรระวังในการใช้ถุงยาง

อาจทำให้เกิดการแพ้สารเคมีในถุงยางได้ และอาจทำให้ถุงยางรั่วหรือแตก ระวังกันด้วยน้าา เช็กวันหมดอายุ รวมถึงเช็กขนาด รอยขาด รอยรั่วด้วยเพื่อความปลอดภัยของเรา

แบบที่ 3 Safe Sex ด้วยถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง

ถุงยางอนามัยของผู้หญิงมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะหลุดเข้าไปในช่องคลอดเช่นกัน และมีราคาแพงกว่าถุงยางของผู้ชาย ถุงยางผู้หญิงทำจากพลาสติกที่เรียกว่าโพลียูรีเทน (Polyurethane) ซึ่งมีขนาดบางมากก อ่อนนุ่ม ผู้หญิงทุกคนสามารถใช้ได้ แต่สำหรับคนที่แพ้สารโพลียูรีเทนหรือยางสังเคราะห์ หรืออวัยวะเพศมีความผิดปกติ ใส่ไม่พอดีหรือหลวมไปควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด

ข้อดีของการใช้ถุงยางผู้หญิง

ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, สามารถป้องกันการตั้งท้องได้ ถ้าใช้อย่างถูกต้อง, สามารถใช้ได้ขณะมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ และไม่มีผลข้างเคียงจากการใช้งาน

ข้อควรระวังในการใช้ถุงยาง 

แกะถุงยางอนามัยออกจากซองอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการฉีกขาด โดยส่วนวงแหวนที่มีขอบยางหนาจะถูกสอดใส่ไว้ในอวัยวะเพศหญิง และวงแหวนที่มีขอบยางบางจะอยู่ที่ปากช่องคลอด ควรตรวจสอบว่าถุงยางไม่พลิกตัว หรือพับงอ และปลายเปิดของถุงยางอยู่ที่ปากอวัยวะเพศ

ควรถอดถุงยางผู้หญิงโดยการบิดวงแหวนด้านนอกหรือปลายเปิดของถุงยาง และดึงออกจากอวัยวะเพศ ห้ามใช้ทั้งถุงยางผู้หญิงและถุงยางผู้ชายขณะร่วมเพศ เพราะอาจเกิดการเสียดสีกันจนฉีกขาดได้

ถุงยางอนามัยของผู้หญิงสามารถใช้ได้กับสารหล่อลื่นทุกประเภท แต่ห้ามใช้วาสลีน หรือน้ำมัน

แบบที่ 4 Safe Sex ด้วยการทานยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด 

เป็นตัวเลือกของผู้หญิง ที่นิยมใช้กันมาก คือ ยาคุมกำเนิด แต่ไม่ป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ฉะนั้นอย่าลืมใช้ถุงยางทุกครั้งด้วย แต่ยาคุมชนิดเม็ดก็ยังเป็นที่นิยมอยู่

  • ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบด้วย ฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ตัวนี้เป็นชนิดที่เราแนะนำเพราะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าตัวอื่น ๆ
  • ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน แบบเดี่ยว เหมาะกับคนที่อยู่ช่วงให้นมลูก 
  • ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน ไม่แนะนำให้ทาน แต่ควรใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน หรือการคุมกำเนิดที่ใช้อยู่ผิดพลาด เช่น ถุงยางแตก รั่วหรือหลุด เท่านั้น

ข้อดีของการทายาคุมชนิดฮอร์โมนรวม

ทานง่าย สะดวก หาซื้อได้ง่าย ตามร้านขายยาทั่วไป ไม่เป็นอุปสรรคระหว่างการมีเพศสัมพันธ์

ข้อควรระวังในการทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม

ให้เช็กตารางของการมีประจำเดือนให้ดี ๆ เพราะถ้าพลาดแล้วแก้ไขยาก ผลข้างเคียงมาก เช่น ทำให้รู้สึกง่วงนอน คลื่นไส้อาเจียน หน้ามืด น้ำหนักขึ้น ตัวบวม หรือบางครั้งอาจจะส่งผลให้มีอารมณ์แปรปรวนด้วย

ยาคุมไม่ได้ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

แบบที่ 5 Safe Sex ด้วยการฉีดยาคุมกำเนิด

การฉีดยาคุมสามารถคุมกำเนิดได้ 100% ซึ่งวิธีนี้สามารถคุมกำเนิดได้ยาวนาน 1-3 เดือน แต่ผลข้างเคียงเยอะมาก หากฉีดยาคุมควรปรึกษาหมอก่อนฉีด  ซึ่งวิธีนี้จะไม่ค่อยสะดวก และราคาสูงกว่าการทานยาคุมแบบเม็ด แต่การฉีดยาคุมถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมากในการคุมกำเนิด 

ข้อดีของการฉีดยาคุม

คุมกำเนิดได้ยาวนาน 1-3 เดือน แล้วแต่ชนิดยา โดยไม่ต้องทานยาทุกวัน ไม่รบกวนต่อการมีเพศสัมพันธ์

สามารถใช้ได้แม้จะอยู่ในช่วงให้นมลูก ช่วยแก้ปัญหารอบเดือนที่ผิดปกติได้

ข้อควรระวังในการฉีดยาคุม

ต้องฉีดยาคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพถึงจะหยุดใช้แล้ว เพราะอาจส่งผลจนกว่าระดับฮอร์โมนในร่างกายจะเป็นปกติ เป็นโรคกระดูกพรุน การใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉีดชนิดเมดรอกซีโปรเจสเทอโรนติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อกระดูก แต่ก็จะกลับสู่ภาวะปกติ หากหยุดใช้

การป้องกันSTI

แนวทางการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

1. ตรวจหาโรคติตต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพียงแค่เรา แต่คู่นอนของเราเองก็ต้องหมั่นตรวจด้วยอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้สร้างความมั่นใจ และหาแนวทางในการป้องกัน หรือแก้ไขกันต่อไป เพราะเชื้อบางชนิดไม่ได้ออกอาการทันที ใช้ระยะเวลานานกว่าจะออกอาการ 

2. ป้องกันอยู่เสมอโดยใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งสามารถพกพาถุงยางอนามัยไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเราไม่รู้ว่าจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงกันตอนไหน นอกจากนี้ควรย้ำกับคู่นอน หรือคุณแฟนเราอยู่เสมอว่าต้องใส่ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้ง 

3. รักเดียวใจเดียว ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญกับเรื่องความรัก ในเรื่องเพศสัมพันธ์ก็เช่นเดียวกัน รักใครก็รักทีละคน จะมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยก็มีทีละคน ลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการรับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาจากคนอื่นด้วย

4. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว อาจทำให้สติ ความคิด ความยับยั้งชั่งใจที่ดีก็จะลดลงไปด้วย ทำให้เราอาจะไม่ได้นึกถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย หรือถูกวิธี ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เกิดผลเสียตามมาและต้องมานั่งเสียใจทีหลังได้

5. การคุมกำเนิด เมื่อคิดจะมีเซ็กส์แล้ว ก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อผลที่จะตามมาด้วย นอกจากเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้ว เรื่องการคุมกำเนิดก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ทั้งยาคุมที่กินประจำทุกวัน และยาคุมฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการตั้งครรภ์แบบไม่พร้อมนะคะ อยากจะเน้นย้ำว่า ยาคุมไม่มีผลต่อการป้องกันโรคติดต่อ ไม่สามารถป้องกันโรคได้ การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยจึงควรใช้ถุงยางอนามัยป้องกันโรคติดต่อทุกครั้ง

อ่านบทความอื่นๆ

อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ :

  • ไม่ต้องอาย! ถ้า STOP ไม่ได้ ก็ “Safe Sex” เรียนรู้การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย https://www.sanook.com/women/130637/
  • Safe Sex แบบไหนปลอดภัยสุด! https://www.wongnai.com/beauty-tips/safe-sex

Similar Posts

  • เริมที่อวัยวะเพศ รักษาอย่างไร

    เริมที่อวัยวะเพศ เป็นหนึ่งในโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากคุณมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อ ซึ่งพบได้ทุกเพศทุกวัย ยิ่งเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ที่มีโอกาสจะมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้าได้ และทำให้ติดโรคเริมที่อวัยวะเพศมา ความน่ากลัวของเชื้อเริมนี้ คือ เมื่อคุณติดแล้วจะกลับมาเป็นซ้ำได้อีกเรื่อยๆ ไม่สามารถหายขาดได้อย่างสนิทใจสักที หากคุณไม่ทำการรักษาก็จริงลุกลามเป็นแผล ส่งผลให้รู้สึกขาดความมั่นใจได้ครับ เริมที่อวัยวะเพศ มีสาเหตุจากอะไร โรคเริมอวัยวะเพศ ส่งผลร้ายอย่างไร ถึงแม้โรคเริม จะไม่ได้ทำให้เกิดโรคร้ายแรงถึงชีวิต แต่หากมีแผลเริมที่อวัยวะเพศจะเป็นช่องทางที่ทำให้เชื้อโรคอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสเอชไอวี เชื้อซิฟิลิส เชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบซี หนองในแท้ หนองในเทียม ฯลฯ ยิ่งหากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่ก่อนแล้ว ก็ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง อ่อนแอง่าย และเร่งให้เชื้อเริมกำเริบขึ้นมาบ่อยๆ ทั้งที่ทำการรักษาเรียบร้อยแล้วก็ตาม การรักษา เริมที่อวัยวะเพศ วิธีรักษาเริมที่อวัยวะเพศจะเน้นรักษาตามอาการ โดยจะใช้ทั้งยาชนิดรับประทานและยาทาไปพร้อมกัน โดยจะเป็นยาในกลุ่มต้านไวรัสชนิดที่ก่อให้เกิดโรคเริมที่อวัยวะเพศ เพราะไม่สามารถใช้ยารักษาไวรัสเริมที่เกิดบริเวณปากได้ เนื่องจากคนละชนิดสายพันธุ์กัน และเพื่อให้ผลการรักษาดีที่สุด ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาภายใน 5 วันแรก นับตั้งแต่เริ่มแสดงอาการครั้งแรก จะช่วยลดปริมาณเชื้อไวรัสไม่ให้ลุกลามไปยังเส้นประสาทส่วนอื่นของร่างกายได้ นอกจากนี้ หากผู้ป่วยมีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณแผล ก็สามารถทานยาแก้ปวด บรรเทาอาการปวดได้ หรือจะใช้วิธีประคบเย็นที่แผลเป็นเวลา 30-60 นาที ร่วมด้วย ทั้งนี้…

  • |

    ออรัล เซ็กส์ (Oral Sex) อย่างไรให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อโรคร้าย

    ออรัล เซ็กส์ ถือเป็นวิธีการมีเพศสัมพันธ์ อย่างหนึ่งที่ทำให้คู่รักรู้สึกเพลิดเพลิน หากทั้งสองฝ่ายยินยอมพร้อมใจ แต่ในบางครั้งการทำออรัลเซ็กส์อาจนำมาซึ่งโรคร้ายต่าง ๆ ได้ เช่น โรคติดเชื้อเอชพีวี ซิฟิลิส หรือแม้กระทั่งโรคเอดส์ ดังนั้น ก่อนจะทำออรัล เซ็กส์ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค และการทำออรัล เซ็กส์อย่างปลอดภัย ออรัล เซ็กส์ (Oral Sex) คือ อะไร ? ความเสี่ยงที่อาจมาพร้อม ออรัล เซ็กส์ 1. ติดเชื้อเอชไอวี การทำออรัลเซ็กส์จะมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีน้อยกว่า การมีเซ็กส์ทางทวารหนัก และช่องคลอด แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีโอกาสติด โดยเฉพาะถ้าช่องปากของฝ่ายรุก และอวัยวะเพศของฝ่ายรับมีแผล 2. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ดังนี้ 5. โรคไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสที่ว่าถูกปล่อยจำนวนมากออกมากับอุจจาระ ทำให้สามารถติดต่อทางออรัล เซ็กส์ได้ 6. โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคนี้อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการที่รุนแรงได้ อย่างเป็นโรคตับหรือตับเกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่อง และบางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ด้วย ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ที่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือผู้ที่ใช้สารเสพติด โดยเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอาจถูกพบได้หลายแห่งในร่างกาย อย่างน้ำอสุจิ เลือด น้ำลาย และอุจจาระ…

  • หนองใน (Gonorrhea) | โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง

    หนองใน (Gonorrhea) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ส่วนใหญ่ติดต่อกันผ่านทางเพศสัมพันโดยไม่ได้ป้องกัน อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ปัสสาวะแสบขัด หนองจากอวัยวะเพศ หรือมีตกขาวผิดปกติออกมาทางช่องคลอด หนองในสามารถพบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้การติดเชื้อลุกลามหรือมีภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่งหนองในแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ การวินิจฉัยหนองใน

  • | | | | |

    Undetectable แล้วไม่ป้องกันได้ไหม ปลอดภัยจริงไหม?

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด หรือ “U=U” ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการแพทย์และสาธารณสุข โดยคำว่า “Undetectable” หมายถึงการที่ปริมาณไวรัส HIV ในเลือดของผู้ติดเชื้อลดต่ำจนไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยการทดสอบมาตรฐาน ซึ่งเกิดจากการที่ผู้ติดเชื้อได้รับการบำบัดด้วยยาต้านไวรัส (ART) อย่างสม่ำเสมอ แนวคิด U=U เป็นที่ยอมรับทางวิทยาศาสตร์ว่า ผู้ที่มีปริมาณไวรัส HIV ต่ำจนตรวจไม่พบ ไม่สามารถแพร่เชื้อให้คู่นอนผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ อย่างไรก็ตาม คำถามที่หลายคนยังคงสงสัยคือ ถ้าไวรัสตรวจไม่พบแล้ว สามารถมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยได้ไหม และมันปลอดภัยจริงหรือ?

  • | | |

    มารู้จักเอดส์ กับระยะของการติดเชื้อ และผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงสังเกตตนเองอย่างไร

    ทุกคนรู้ดีว่า “เอดส์” คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ปัจจุบันยังไม่มียาหรือวิธีในการรักษาให้หายขาด แต่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงเพื่อต่อสู้กับโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่จะเข้ามาหา ปัจจัยเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดโรคนี้คือ การมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคู่โดยไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย หรือห่วงอนามัย, การใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น ซึ่งเชื้อเอดส์นี้จะไม่ติดต่อทางน้ำลายหรือการสัมผัสภายนอก อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่มีพฤติกรรมเสี่ยง การรู้ว่าเอดส์ระยะแรก และระยะถัด ๆ ไปเป็นอย่างไร จะช่วยด้านการดูแลตนเองอย่างดี เอดส์ระยะแรก แสดงอาการอย่างไร เอดส์ระยะสาม แสดงอาการอย่างไร จะเรียกว่า เอดส์ระยะสุดท้าย หรือ ระยะโรคเอดส์ก็ไม่ผิด เพราะจากแค่เป็นการติดเชื้อจะพัฒนาไปสู่การเป็นโรคเอดส์แบบเต็มตัว ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดลงและบกพร่องมากขึ้น ส่งผลให้โรคแทรกซ้อนต่าง ๆ หรือโรคฉวยโอกาสจากเชื้อไวรัสอื่นเข้ามาง่ายขึ้น ร่างกายจะโทรมเร็ว มีผื่นขึ้นตามตัว และมีอาการป่วยตามแต่จะเกิดการติดเชื้อ โรคเอดส์ถือเป็นโรคอันตรายที่คนทั้งโลกเองรู้ดี ดังนั้นการเริ่มต้นจากตนเองด้วยวิธีใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม รักเดียวใจเดียว ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ และตรวจเอชไอวีเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้เป็นอย่างดี

  • |

    วิธีการรักษาผื่นที่เกิดจากการติดเชื้อเอชไอวี

    ผื่นที่ผิวหนัง เป็นอาการทั่วไปเมื่อเกิดการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ขึ้น อาการมักจะเป็นสัญญาณเริ่มแรก และมักจะเกิดขึ้นในช่วง 2 – 3 สัปดาห์หลังได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างก่าย ซึ่งอาการผื่นอาจไม่ได้เป็นเกิดจากการติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้จากยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ได้ด้วย ผื่นที่เกิดจากเชื้อเอชไอวี ผื่นที่เกิดจากเชื้อเอชไอวี มักจะเป็นจุดด่างดวงบนผิวหนัง ถ้าเป็นคนผิวขาวก็จะเป็นจุดสีแดง แต่ถ้าเป็นคนผิวสีเข้มก็จะเป็นสีดำอมม่วง โดยความรุนแรงของผื่นจะไม่เท่ากันในแต่ละคน บางคนก็อาจจะมีผื่นขึ้นรุนแรงมากเป็นบริเวณกว้าง ในขณะที่บางคนก็อาจจะมีผื่นขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น แต่ถ้าผื่นที่เกิดจากเชื้อเอชไอวี เป็นผลมาจากยาต้านไวรัส ผื่นจะเป็นรอยแผลแดงบวมไปทั่วร่างกาย ผื่นแบบนี้เรียกว่า ผื่นแพ้ยา สังเกตว่าผื่นขึ้นตรงไหล่ หน้าอก ใบหน้า ท่อนบนของร่างกาย และมือหรือไม่ ผื่นเอชไอวีจะมีอาการเจ็บ และคัน ในช่วงเวลาที่ ผื่นปรากฏและจะมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นอาการเริ่มแรกของการติดเชื้อเอชไอวี อาการเหล่านี้ สาเหตุของผื่นจากเชื้อเอชไอวี ผื่นเกิดจากการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวในร่างกายลดลง จะเกิดขึ้นในระยะไหนของการติดเชื้อก็ได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว มีผื่นจะเกิดขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์หลังจากที่คุณได้รับเชื้อ เป็นระยะที่เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงในตัวอย่างเลือด ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราสามารถตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีได้จากการตรวจเลือด แต่บางคนก็อาจจะไม่ผ่านขั้นตอนนี้ แต่จะมีผื่นขึ้นหลังจากติดเชื้อไวรัสไปถึงระยะอื่นแล้วก็ได้ และนอกจากนี้ผื่นเอชไอวี ยังอาจเป็นอาการแพ้ยาต้านไวรัสเอชไอวี ก็ได้ เช่น Amprenavir Abacavir และ…